เรื่องน่ารู้ก่อน เสริมหน้าอก อ่านที่นี่

By เสริมหน้าอก เสริมนม นวดนม อุบลราชธานี - เมษายน 10, 2561


ในยุคปัจจุบันการทำศัลยกรรมดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยอมรับกันทั่วไป ซึ่งหากเป็นการ เสริมหน้าอก ทำนม นวดนม ศัลยกรรมหน้าอก ยิ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายสำหรับสาวๆ หากว่าการทำศัลยกรรมนั้นช่วยให้เราดูดีขึ้นมันก็เป็นสิ่งที่ดี แล้วก็จะยิ่งทำให้เพิ่มความมั่นใจขึ้นอีก การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ส่วนใหญ่แล้วเป็นการเสริมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รูปทรงสวยขึ้นซึ่งมีผลให้มีความมั่นใจและแต่งตัวได้ง่ายขึ้น วันนี้เรามีหลากหลายคำถามน่ารู้ก่อนคิดทำเสริมหน้าอกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สาวๆ จำเป็นต้องรู้

1. เสริมหน้าอกปัจจุบันใช้เครื่องมืออะไรในการผ่าตัด


ในปัจจุบันเรามีเต้านมเทียมที่ใช้อยู่สองแบบใหญ่ๆคือแบบที่เปลือกนอกเป็นซิลิโคนและภายในใช้การเติมน้ำเกลือเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการและแบบที่เป็นซิลิโคนเจลซึ่งมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดี ส่วนใหญ่เรานิยมใช้เต้านมที่เป็นซิลิโคนทั้งหมดเนื่องจากให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

2. เวลาใส่แล้วเต้านมเทียมมีโอกาสที่จะรั่วซึมหรือไม่หากมีปัญหาจะทำอย่างไร


สำหรับเต้านมเทียมล้วนมีโอกาสรั่วซึมได้แต่น้อยมาก โดยเฉพาะหากไม่ได้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกอย่างรุนแรง หากเป็นชนิดใส่นำ้เกลือเต้านมก็จะแฟบลงน้ำเกลือที่ซึมออกมาก็จะถูกร่างกายดูดซึมไปโดยไม่เกิดอันตราย ส่วนชนิดที่เป็นซิลิโคนเจลในปัจจุบันได้พัฒนาให้มีความหนืดสูงเมื่อรั่วซึมแล้วจะไม่ไหลไปเหมือนซิลิโคนเหลวในอดีต ซึ่งหากพบว่ามีการรั่วเราจำเป็นต้องผ่าตัดออกเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ไม่ว่าจะเป็นชนิดน้ำเกลือหรือซิลิโคนเจล

3. จะเลือกชนิดของซิลิโคนอย่างไร


ปัจจุบันซิลิโคนมีความแตกต่างกันนอกจากวัสดุภายในแล้วยังมีความแตกต่างที่เปลือกหุ้มด้วย ซึ่งมีสองแบบคือผิวเรียบและผิวขรุขระหรือที่นิยมเรียกว่าผิวทรายซึ่งมีความเชื่อว่าการใช้เต้านมแบบผิวทรายจะช่วยให้ลดการเกิดผังผืดรัดเต้านมและทำให้รูปทรงอยู่คงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนตามเวลาและไม่จำเป็นต้องนวดมากเหมือนแบบผิวเรียบ แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของศัลยแพทย์และธรรมชาติของเราที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีรูปทรงของเต้านมให้เลือกอีกคือแบบทรงกลมและแบบหยดน้ำ โดยแบบหยดน้ำเชื่อว่าจะเหมือนธรรมชาติมากกว่าที่ถ้าหากเราแบ่งเต้านมตามแนวขวางผ่านหัวนม เต้านมที่สวยจะมีเนื้อบริเวณด้านล่างมากกว่าด้านบนแต่ทั้งนี้การเลือกชนิดของเต้านมเทียมจำเป็นต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดและค่อยพิจารณาว่าควรใส่แบบไหนจึงจะเหมาะสม

4. การผ่าตัดจะมีแผลตรงไหนบ้าง


ปัจจุบันมีบริเวณที่แพทย์นิยมผ่าตัด3ตำแหน่งคือ ใต้ฐานนม รักแร้และขอบหัวนม สำหรับคนไทยมีตำแหน่งใต้ฐานนมและรักแร้ที่เป็นที่นิยม ซึ่งการผ่าตัดบริเวณใต้ฐานนมทำได้ง่ายกว่าและจัดทรงของเต้านมเทียมได้ดีกว่าแต่มีข้อเสียคืออาจะเห็นแผลเป็นได้ง่ายกว่าการผ่าตัดที่รักแร้ ซึ่งปัจจุบันหากต้องการใส่เต้านมแบบหยดน้ำหรือเพิ่มขนาดมากแนะนำให้ผ่าตัดเข้าทางใต้ฐานนม แผลผ่าตัดส่วนใหญ่จะหายจนสังเกตแทบไม่เห็นมักใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือนถึงหนึ่งปีขึ้นไป

5. การผ่าตัดใช้การพักฟื้นนานแค่ไหน


ส่วนใหญ่นอนรพหนึ่งคืนและสามารถอาจพักผ่อนที่บ้านอีกสองถึงสามวันก่อนกลับไปทำงานได้ เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีการผ่าตัดทำให้ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยลงกว่าเดิมมากและมีผลให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก หากผู้ป่วยไม่เจ็บมากแพทย์จะแนะนำให้ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติแต่ไม่ควรออกกำลังกายหนักหรือยกของหนักประมาณหนึ่งเดือน

6. การดูแลหลังผ่าตัดต้องทำอย่างไรบ้าง


การนวดบริเวณเต้านมควรเริ่มทำหลังจากที่หายเจ็บจากการผ่าตัดแล้วโดยมากอย่างน้อยประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจำเป็นหากผู้ป่วยได้รับการเสริมหน้าอกโดยใช้ซิลิโคนผิวเรียบ โดยการนวดแนะนำให้ทำอย่างนุ่มนวลโดยรอบของเต้านมประมาณข้างละ 10 ครั้งวันละ 3-4 รอบ และหากรู้สึกเจ็บตึงให้หยุดทันที จุดประสงค์ของการนวดเพื่อลดโอกาสเกิดพังผืดรัดรอบเต้านมเทียมเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องนวดหากใส่เต้านมชนิดผิวทรายหรือเต้านมรูปทรงหยดน้ำเพราะจะทำให้เต้านมเคลื่อนผิดรูปได้ ปกติแล้วรูปทรงของเต้านมหลังการเสริมจะเข้าทีสมบูรณ์มักต้องใช้เวลา 3 เดือนขึ้นไป ส่วนบริเวณแผลผ่าตัดแนะนำให้ปิดซิลิโคนเจลหรือทาซิลิโคนครีมที่ใช้สำหรับป้องกันแผลเป็นโดยเฉพาะหลังจากแผลหายสนิทแล้วคือสองสัปดาห์หลังผ่าตัด โดยแนะนำให้ใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 เดือนจึงจะได้ผล

7. ปัญหาแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก


นอกจากปัญหาทั่วไปที่อาจพบได้จากการผ่าตัดได้แก่การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดซึ่งโอกาสเกิดประมาณ 1-3% ส่วนปัญหาอื่นที่อาจพบได้คือการที่มีพังผืดรัดรอบเต้านมเทียม ซึ่งทำให้เต้านมผิดรูปได้มีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 5-10% ส่วนปัญหาระยะยาวเช่นการรั่วซึมของซิลิโคนนั้น มีโอกาสเกิดน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนหมั่นตรวจเต้านมตนเอง ร่วมกับการตรวจเอกซเรย์เต้านมเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์ จากการศึกษาระยะยาวพบว่าการเสริมหน้าอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดมะเร็งแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่จะให้นมบุตรสามารถให้นมบุตรได้ตามปกติโดยไม่มีอันตรายแต่อย่างใด สุดท้ายคือการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของเต้านมนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการผ้าตัดแก้ไขให้ได้รูปทรงที่ต้องการ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องรู้เบื้องต้นของผู้หญิงทุกท่านที่ต้องการจะมีหน้าอกที่สวยขึ้นด้วยการผ่าตัดเสริมหน้าอกซึ่งหากเข้าใจและดูแลตัวเองอย่างถูกต้องก็จะทำให้ได้รับผลการรักษาที่ดีตามที่ต้องการได้

  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น